ข่าวบอลน่าเหลือเชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาพูดผ่านบอลออนไลน์ ถึงเรื่องที่ตนเองถูกไล่ให้ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ในเกมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6 ผลบอลเมื่อคืนทีมปีศาจแดงบุกชนะ เซาแธมป์ตัน 1-0 เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ชนิดที่แฟนบอลทั้งในและนอกสนามต่างพากันตีหน้าอึนกันเป็นแถบ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ได้บอกว่ายังไม่รู้เลยว่าโดนด้วยข้อหาอะไร
เหตุเกิดขึ้นจากเกมดังกล่าวช่วงนาที 78 ท้ายการแข่งขัน ผู้ตัดสิน ไมค์ พอว์สัน ได้ไล่ มูรินโญ่ ขึ้นอัฒจันทร์ หลังจากที่ไปมีปากเสียงกับ ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินที่ 4 ของการแข่งขัน ถูกผู้ตัดสินเชิญออกจากสนามไปเพราะล่ำเขตที่กำหนด หลังจบเกมกุนซือชาวโปรตุเกสก็ได้ตอบคำถามกับสื่อที่สงสัยเรื่องนี้
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ไม่รู้เหมือนกันผู้ตัดสินบอกให้ผมออกไปจากสนาม และผมก็ออกไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นเพราะอะไร” มูรินโญ่ กล่าว
จากนั้นเขาก็ถูกนักข่าวถามว่าไปมีปัญหาอะไรกับไลน์แมนหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบสั้นๆ ว่า เปล่าเลยผมไม่ได้มีปัญหาอะไร กับผู้ตัดสินที่ 4 เรื่องนี้มันต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดกันแน่ๆ แฟนบอลออนไลน์หลังจากดูการแข่งครั้งนี้จบ ต่างเชื่อกันว่าสาเหตุที่ทำให้ มูรินโญ่ โดนไล่ออกนั้น น่าจะเป็นเพราะว่าเดินล้ำออกมาจากเขตเทคนิกบ่อยเกินไป โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว เป็นเหตุทำให้ผู้ตัดสินที่ 4 ต่อสายตรงไปยังผู้ตัดสิน พอว์สัน ก่อนที่จะมีการไล่ขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์นั่นเอง
สื่อบอลออนไลน์แฉซีเกมส์ ล้มบอล
สื่อบอลออนไลน์แฉซีเกมส์ รตีแผ่ข่าวการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย พบมีการล้มบอลถึง 3 นัดด้วยกันหนึ่งในนั้นมีเกมไทย ชนะ กัมพูชา 3-0 ร่วมอยู่ด้วย
กลายเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อข่าวเรื่องการล้มบอลสื่อชื่อดังของสิงคโปร์ตีแผ่ข่าวนี้ออกสู่สาธารณะ เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ 2017 ครั้งที่ 29 ประเทศมาเลเซีย มี 3 นัดในรอบแรกตรวจสอบผลบอล ตั้งข้อสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันผิดกฎหมาย จากการเฝ้าติดตามเครือข่ายการพนันข้ามชาติ 5 ประเทศ พัวพันกับการล็อกผลการแข่งขัน
สำหรับเกมที่ถูกตั้งข้อสงสัยประกอบด้วยเกมในกลุ่มเอ มาเลเซีย ชนะ ลาว 3-1 และอีก 2 เกมในกลุ่มบี เวียดนาม ชนะ กัมพูชา 4-1 และ ไทย ชนะ กัมพูชา 3-0 แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลเบื้อต้นเป็นการวิเคราะห์บอลสมมุติฐานเบื้องต้นเท่านั้นแฟนบอลไทยไม่ต้องตกใจ ทีมชาติไทยไม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายสมรู้ร่วมคิด ทั้งนี้คาดว่าอาจเป็นทางด้วยกัมพูชาที่มีส่วนพัวพันกับการล็อกผลครั้งนี้มากกว่า ทั้งนี้ด้านสมาคมฟุตบอลประเทศลาวและสมาคมฟุตบอลประเทศกัมพูชา ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นการล็อกผลบอลครั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย AFC เพิ่งจะลงโทษแบนผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทีมลาวและกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 22 คน ในข้อหา AFC ได้ข้อตกลงลงโทษแบนผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับทีมลาวและกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 22 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้วในข้อหามีส่วนสมรู้ร่วมคิดและกระทำการดังกล่าวในการล้มบอลครั้งนี้อย่างไรต้องรอการติดตาม
สร้างสถิติบอล 200 ประตูใน พรีเมียร์ลีก
แนวรุกเอฟเวอร์ตันโพสต์ทวิตเตอร์แซวแฟนๆ เรือใบสีฟ้าหลังจาก สร้างสถิติบอล ที่ 200 ในพรีเมียร์ลีกของตัวเองได้สำเร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา เวย์น รูนีย์ กองหน้าเอฟเวอร์ตัน โพสต์ข้อความแซวแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่เขาทำประตูที่ 200 ใส่ทีมเรือใบสีฟ้า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ดาวยิงวัย 31 ปี กลับมาเริ่มทำประตูได้อีกครั้ง หลังจากช่วงปลายชีวิตค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มตกลงไปพักใหญ่ จนต้องย้ายกลับมาเล่นในถิ่นกูดิสัน พาร์ค ฤดูกาลนี้ โดยในนัดล่าสุดเขาเพิ่งทำอีกหนึ่งประตูให้ท็อฟฟี่สีน้ำเงินเป็นฝ่ายขึ้นนำ ก่อนที่แมนฯ ซิตี้จะตามตีเสมอได้จาก ราฮีม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 82 ของการแข่งขัน
“เป็นเรื่องดีเสมอ เมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยจำนวนหนึ่ง” รูนีย์โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ พร้อมรูปภาพแฟนบอลเรือใบสีฟ้าที่กำลังทำท่าทางหัวเสียเพราะถูกยิงประตู
การทำประตูในนัดนี้ ส่งผลให้เวย์น รูนีย์ กลายเป็นนักเตะที่สองที่ยิงได้ถึงหลัก 200 ประตูในพรีเมียร์ลีก ต่อจากอลัน เชียร์เรอร์ ที่ยิงได้รวม 260 ประตูในพรีเมียร์ลีก ตลอดชีวิตค้าแข้งของตัวเอง
เวย์น มาร์ค รูนี่ย์ 1 ใน 3 ลูกชายของบ้านรูนี่ย์ เป็นนักเตะที่มีความมหัศจรรย์มากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษในยุคนี้ เหนือยิ่งกว่าไมเคิล โอเว่น กองหน้ามหัศจรรย์ของทีมลิเวอร์พูลเสียอีก และที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือทั้งคู่แจ้งเกิดในสโมสรร่วมเมืองเดียวกัน แต่เป็นคนละสี
รูนี่ย์ กลับมาแจ้งเกิดได้อย่างยิ่งใหญ่แบบเต็มตัวในช่วงศึกยูโร 2004 โดยได้ถูกเรียกตัวจากสเวน โกรัน เอริคส์สัน ให้เข้ามาติดทีมชาติ โดยมีไมเคิล โอเว่น สตาร์รุ่นพี่เป็นคู่หู ซึ่งก่อนหน้านั้นรูนี่ย์ เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว โดยเกมแรกที่ได้ลงเล่นในสีเสื้อสิงโตคำรามคือเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติออสเตรเลีย ในวันที่ 12 ก.พ. 2003 และเป็นอีกครั้งที่ทำสถิติเป็นผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด (ก่อนจะโดนธีโอ วัลค็อตต์ วันเดอร์คิดคนต่อมาทำลายในปีกลาย)
ในยูโร 2004 ที่โปรตุเกส รูนี่ย์ สามารถผลิตผลงานระดับเทวดาเรียกพี่ได้ และเป็นแกนนำคนสำคัญในทีมไปอย่างไม่น่าเชื่อ กลบรัศมีของดาวเด่นอย่างโอเว่นลงสนิท ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน กล้าหาญ และเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในการเล่น
สนับสนุนกีฬาฟุตบอล
เป็นที่ฮือฮากันอย่างมากในช่วงนี้ ที่แบนด์ชื่อดังที่ สนับสนุนกีฬาฟุตบอล มาโดยตลอดอย่าง “อาดิดาส” ได้สร้างความฮือฮาให้แก่แฟนๆสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และเป็นที่ตกใจหรือดีใจแก่นักพนันฟุตบอลทางฝั่งประเทศอังกฤษ ซึ่ง “อาดิดาส” ได้โพสรูปผ่านทางเว็ปไซต์ของตน
โดยรูปดังกล่าว เป็นรูปเสื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ทำขึ้นมาในหมายเลข 10 ที่ทางสโมสรว่างเว้นมาได้สักพักหลังจาก “เวนย์ รูนีย์” ได้ย้ายออกไป แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนตื่นเต้นตกอกตกใจนั้นไม่ใช่หมายเลข 10 ที่ปักอยู่บนเสื้อ แต่เป็นชื่อที่ปรากฎอยู่เหนือหมายเลข 10 นั้นเอง ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็ชื่อที่ปรากฎนั้น มันคือชื่อของ “ซลาตัน ” ผู้นำพาความสำเร็จมาให้สโมสรในฤดูกาล 2016-2017 ที่มีข่าวว่าจะย้ายออกจากทีม
เหตุการณ์นี้ทำให้สื่อผู้ดีจากประเทศอังกฤษจับผิด “ซลาตัน” ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มันเป็นแผนของ“ซลาตัน”รึเปล่าที่ต้องการสวมเสื้อหมายเลข 10 ของสโมสร เพราะก่อนหน้านี้ หลังจากที่ “ซลาตัน” ได้รับอาการบาทเจ็บ ก็มีข่าวออกมาทุกวันว่า “ซลาตัน” ต้องการที่จะย้ายทีม แต่การย้ายทีมของ “ซลาตัน” ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จนมากระทั้ง แมนยูได้บรรลุข้อตกลงกับ “ลูกากู” แต่ ณ เวลานั้น เสื้อเบอร์ 10 ยังคงติดชื่อของกัปตันทีมอย่าง “รูนีย์” ศูนย์หน้าป้ายแดงจึงต้องแบกหน้าไปขออนุญาติกับ “ซลาตัน” เพื่อขอใช่หมายเลข 9 ที่ “ซลาตัน” ได้กั๊กไว้อยู่ หลังจากนั้นต่อมา หมายเลข 10 ของสโมสรก็ได้ว่างลงหลังจากที่ “รูนีย์” ได้ย้ายทีมไปเล่นให้กับ “เอฟเวอตัน”
เหตุใดนั้นเอง เนื่องด้วย “ซลาตัน” สวมเสื้อเบอร์ 10 มาโดยตลอดในชีวิตการค้าแข้งของเขา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เล่นให้กับ อาแจ็ก,อินเตอร์ มิลาน,บาร์เซโลน่า,เปแอสเช เพราะ THE GOD เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อฝรั่งเศสว่า “ตนให้ความสำคัญกับหมายเลขเสื้อเบอร์ 10 เป็นอย่างมาก เพราะหมายเลข 10 ที่ติดอยู่บนหลังเสื้อฟุตบอล มันมีความหมายว่าตนได้เป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดที่ทีมจะไม่สามารถขาดผมได้ เพราะผมคือ THE GOD” นี้คือคำกล่าวของนักฟุตบอลที่ถือว่าตัวเขาเองเป็นดั่งเช่น “พระเจ้า” ที่มีนามว่า “ซลาตัน อิบราฮิโมวิช”