พากันนอนหลับ ฝันดีสำหรับแฟนบอล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ทีมรักโชว์ฟอมร์ได้ “โหดสัด รัสเซีย โคลัมเบียพิคเจอร์” บุกไปยิงเจ้าถิ่น “มาริบอร์” ถึงประเทศสโลวีเนีย 7 ประตูต่อ 0 กินเต็มกันไปสำหรับนักแทงบอลออนไลน์ที่เป็นแฟนของ “หงส์แดง” ที่ได้ลงเดิมพันทีมรักของตน
รีวิวการแข่งขัน โดยเกมนี้ทางฝั่งทีมเยือน “หงส์แดง” มาได้ประตูขึ้นนำ รีบเหมือนว่าจะลืมปิดแก๊สที่ แอนด์ฟิลต้องรีบกลับรังไปปิด ตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลนิ่มๆมาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สังหารเข้าไปไม่พลาด ถัดจากนั้น ทีมเยือน ยังคงเน้นครองบอลพร้อมกับเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั้งมาบวกสกอร์ที่สองเพิ่มได้จาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในนาทีที่ 13 ก่อนที่ ซาลาห์ จะมาเหมาคนเดียว 2 ประตู ในนาทีที่ 19,40 ช่วยให้จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกมานำ มาริบอร์ ถึงถิ่นที่สกอร์ 4-0 กลับมาในครึ่งเวลาหลัง ยังคงเป็นลูกทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี พร้อมกับมายิงประตูเพิ่มได้อีก 3 ตุง จาก โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่ ในนาทีที่ 54 และช่วงท้ายเกมจาก อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ในนาทีที่ 86 ปิดท้ายด้วยลูกยิงไกลของเจ้าหนู เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ช่วยให้จบ 90 นาที “หงส์แดง” เป็นฝ่ายเอาชนะ พร้อมกับทำสถิติยิงประตูในเกมยุโรปได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับที่ มาร์กเซย เคยทำได้ในปี 2010 ด้วยสกอร์ 7-0
รายชื่อผู้ทำประตู : 0-1 ฟีร์มิโน่ น.4 / 0-2 คูตินโญ่ น.13 / 0-3 ซาลาห์ น.19 / 0-4 ซาลาห์ น.40 / 0-5 ฟีร์มิโน่ น.54 / 0-6 แชมเบอร์เลน น.86 / 0-7 อาร์โนลด์ น.90
บอลรอบเพลย์อ๊อฟ ไอร์แลนด์ vs เดนมาร์ก
วิเคราะห์ฟุตบอลโลก 2018 บอลรอบเพลย์อ๊อฟ เลก 2 ทีมชาติไอร์แลนด์ เจอกับ ทีมชาติเดนมาร์ก สนาม อาวีว่า สเตเดี้ยม วันที่ 14 พ.ย. 2560 เวลาแข่งขัน 02.45 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือท่านสามารถติดตามอ่านบท วิเคราะห์บอล คู่อื่นๆที่ลงแข่งได้ที่ :
ผลงานการพบกันของ ทั้ง 2 ทีม 8 นัด ล่าสุด ทีมชาติไอร์แลนด์ – ทีมชาติเดนมาร์ก
12/11/17 ทีมชาติเดนมาร์ก 0 – 0 ทีมชาติไอร์แลนด์
23/08/07 ทีมชาติเดนมาร์ก 0 – 4 ทีมชาติไอร์แลนด์
28/03/02 ทีมชาติไอร์แลนด์ 3 – 0 ทีมชาติเดนมาร์ก
28/04/93 ทีมชาติไอร์แลนด์ 1 – 1 ทีมชาติเดนมาร์ก
15/10/92 ทีมชาติเดนมาร์ก 0 – 0 ทีมชาติไอร์แลนด์
13/11/85 ทีมชาติไอร์แลนด์ 1 – 4 ทีมชาติเดนมาร์ก
14/11/84 ทีมชาติเดนมาร์ก 3 – 0 ทีมชาติไอร์แลนด์
03/05/79 ทีมชาติไอร์แลนด์ 2 – 0 ทีมชาติเดนมาร์ก
24/05/78 ทีมชาติเดนมาร์ก 3 – 3 ทีมชาติไอร์แลนด์
ผลงาน 4 นัดล่าสุดของ ทั้ง 2 ทีม
เจ้าบ้าน : ทีมชาติไอร์แลนด์
12/11/17 เสมอ เดนมาร์ก 0-0 (เยือน) ฟุตบอลโลก 2018 รอบเพลย์-อ๊อฟ เลก 1
10/10/17 ชนะ เวลส์ 1-0 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
07/10/17 ชนะ มอลโดวา 2-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
06/09/17 แพ้ เซอร์เบีย 0-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
ทีมเยือน : ทีมชาติเดนมาร์ก
12/11/17 เสมอ ไอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า) ฟุตบอลโลก 2018 รอบเพลย์-อ๊อฟ เลก 1
08/10/17 เสมอ โรมาเนีย 1-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
06/10/17 ชนะ มอนเตเนโกร 1-0 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
04/09/17 ชนะ อาร์มีเนีย 4-1 (เยือน) คัดบอลโลก 2018 ยุโรป
รายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ทีมชาติไอร์แลนด์ – ทีมชาติเดนมาร์ก
เจ้าบ้าน : ทีมชาติไอร์แลนด์ (4-4-2)
ดาร์เรน แรนดอล์ฟ – ไซรัส คริสตี้, เชน ดัฟฟี่, คีแรน คลาร์ค, สตีเฟ่น วอร์ด – ร๊อบบี้ เบรดี้, เจฟฟรี่ เฮนดริค, เกล็น วีแลน, เจมส์ แม็คคลีน – เชน ลอง, ดาริล เมอร์ฟี่
ทีมเยือน : ทีมชาติเดนมาร์ก (4-3-3)
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ปีเตอร์ อังเกอร์เซ่น, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไซม่อน เคียร์, เยนส์ ลาร์สเซ่น – คริสเตียน อีริคเซ่น, โธมัส เดอลานี่ย์, วิลเลี่ยม ควิสต์ – วิคเตอร์ ฟิสเชอร์, ยุสซุฟ โพลเซ่น, พิโอเน่ ซิสโต้
ทรรศนะ วิเคราะห์บอล : ทีมชาติไอร์แลนด์ – ทีมชาติเดนมาร์ก
เลือกยากเลยสำหรับบรรยากาศเพลย์ออฟคราวนี้ที่จืดชืด เพราะ 3-4 คู่หลังลงเอยด้วยการเจ๊าจืดไร้สกอร์ สำหรับ ไอร์แลนด์ยกแรกเล่นแตะเป้าด้วยการบุกยันเสมอ แต่ด้วยสกอร์ 0-0 ทำให้ยังต้องลุ้นหนักต่อ โดยระยะหลังจะว่าหากตัดเรื่องความเหนียวแน่นที่สอบผ่านฉลุย ในสาขาเฉียบขาดนั้นแข้ง “ยักษ์เขียว” ยังบกพร่อง เมื่อลงสนาม 6 เกมที่ผ่านมาชนะคู่แข่งไม่ถึงครึ่ง (ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1) ขณะที่นัดนี้ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์กล้าแลกมากขึ้นในฐานะเจ้าถิ่น มองว่าสถานการณ์นี้คงเปิดช่องให้ เดนมาร์กเล่นง่ายกว่ายกแรกที่เจอคู่แข่งตั้งโซนรับอุดต่ำ
ผลสกอร์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจบการแข่งขัน : เสมอกัน 1-1
จับจุดแทงบอลคืนนี้ เจ้ายุโรป
สิ่งสำคัญที่ทำให้เกมการแข่งขันดำเนินไปอย่างสนุกสนานคือการจับคู่แข่งทั้งสองทีมมาตัดสินกัน จุบจุดแทงบอลคืนนี้ เราจะได้เห็นนักเตะระหว่างลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด ชิงความได้เปรียบกันในนัดดวบเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ 26 พฤษภาคม นี้
หากความได้เปรียบครั้งนี้ใครคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าก็อาจได้ความเหนือชั้นครั้งนี้ไปคราวนี้ลองมาเปรียบเทียบแต่ละตำแหน่งก่อยเลนเริ่มที่ การดวลกันในแบ็กซ้ายกับปีขวาที่ดีที่สุดทั้งสองของโลกฤดูกาล 2017/18 ทะลวงไป 44 ประตูทุกรายการ มาร์เซโล่ วิเอยร่า ฟลูแบ็กของ เรอัล มาดริด มีทั้งแกมรับเหนียวแน่น พร้อมเติมเกมบุกได้ตลอดเวลาร่วมประสานกับ คริสเตีนโน่ โรนัลโด้ ทำให้ฝั่งซ้ายราชันมีความแข็งแกร่งสุดๆ ขณะที่หงส์แดง หนึ่งในปีกจอมถล่มความเร็วสูง พร้อมเทคนิคชั้นยอดการดวลระหว่างทั้งคู่นั้นจึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก อีกหนึ่งตำแหน่งแดนกลางมิดฟิลด์คนสำคัญของทั้งสองทีมคือ โทนี่ โครส กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทั้งสองมีส่วนสำคัญในเกมรุกของทีม แม้ทางด้านเฮนเดอร์สัน จะเป็นรองด้านเทคนิค แต่ความอึดไม่เป็นรองใครแน่นอนและหากเกมนี้เขากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้รับรองมันส์แน่นอน
อีกไฮไลท์สำคัญน่าจับตามองแกนหลักทั้งสองทีม คริสเตียโน โรนัลโด้ กองหน้าโปรตุเกส ปะทะ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังชาวดัตช์มาเสริมทัพเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ หากเกมนี้ โรนัลโด้ ทำผลงานเข้าเป้าพาทีมคว้าแชมปืรายการนี้ได้เขาจะมีสิทธิ์ลุ้น บัลลง ดอร์ สมัยที่ 6
ทีมฟุตบอลยอดเยี่ยม
การแข่งรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมฟุตบอลยอดเยี่ยม หลายรายโชว์ฟอร์มได้โดเด่นพร้อมโชว์สกิลขั้นเทพ ทั้งนี้เรามาดูแข้ง 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัดที่สองที่ทางเว็บไซต์กีฬาชื่อดังจัดเรทผู้เล่นให้ได้ติดตามกัน
ผู้รักษาประตู ยกให้ เกลอร์ นาบาส ทีมชาติคิสตาริกาของเรอัล มาดริด ช่วยเซฟลูกสำคัญไป 7 ครั้งสามารถยันทีทบราซิลได้ตลอดการแข่งขันเลยทีเดียว แต่ประตูที่เสียไปสองลูกช่วงทดเวลาบาดเจ็บเกินกว่าจะรับมือได้และไม่ใช่ความผิดของเขาเลย จอห์น สโตนส์ ทีมชาติอังกฤษเซนเตอร์ปราการหลังของเชลซี แม่ยังไม่ได้พิสูจน์ความสามารถเกมรับเท่าไหร่แต่การเติมเกมรุกทำได้ดี ช่วงโหม่งสองประตูกลายเป็นตัวอันตรายหนึ่งทีเด็ดของทีมที่ประมาทไม่ได้ เตอัน ลอฟเรน ปราการหลังสัญชาติโครเอเชียตัวหมากรุกลิเวอร์พลู เข้ามาสกัดเล่นเกมรุกอาร์เจนติน่าได้ตลอดจากการเคลียร์บอลในกรอบเขตโทษ 5 ครั้งและบล็อกลูกสำคัญอีก 2 กลายเป็นแนวรุกตัวอันตรายทำเอาอาร์เจนติน่าจางลงไปเลย
กองกลางทีมชาติโคลอมเบีย เยร์รี่ มีน่า วัย 23 ปี ด้วยความสูงที่เป็นจุดแข็งตามประกบเลวานดอฟสกี้แบบอยู่หมัด ช่วยทำประตูปลดล็อคให้กับโคลอมเบีย ช่วยถล่มโปแลนด์ไปแบบขาดลอย วิคเตอร์ โมเซส วิงแบ็ควัย 27 ปี มำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยเบิกร่องให้อาเหม็ด มูซ่า ยิงประตูใส่ไอซ์แลนด์ ก่อนจะพาทีมคว้าชัยเกมแรกของทัวร์นาเม้นต์นี้สำเร็จ